การจัดการองค์กร

คือ มีเป้าประสงค์ในการจัดตั้งองค์กรชัดเจน กำหนดโครงสร้างองค์กรตามลักษณะขององค์กร และมีกลุ่มคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมาทำงา่นด้วยกัน

เพื่อสร้างคุณค่า13;ที่สังคมปรารถนา13;

เพื่อตอบสนองความต้องการของคนและกลุ่มต่างๆ ในองค์กร

เพื่อความดำรงอยู่13;และความเจริญ13;ขององค์กร 13;

ระยะแรกกฎระเบียบน้อยผู้เชี่ยวชาญไม่มาก รวมศูนย์ตัดสินใจ

ระยะที่สองผู้เชี่ยวชาญมากขึ้นมีกฎระเบียบเป็นทางการมากขึ้น ร่วมกันตัดสินใจ

ระยะที่สามมีการเติบโตเต็มที่ ผจก. แบ่งอำนาจหน้าที่กันอย่างชัดเจนไปตามความชำนาญเฉพาะด้าน มีการกระจายอำนาจ

ระยะสุดท้ายเป็นช่วงที่องค์กรมีลักษณะเติบโตเต็มที่และเริ่มเติบโตช้าลง

ช่วยกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบ อำนาจหน้าที่และภารกิจต่างๆ

ช่วยในการประสานงาน โดยการกำหนดขอบเขตและจัดกลุ่มงานที่สัมพันธ์กันให้อยู่ในหน่วยเดียวกัน

ช่วยป้องกันการทำงานซ้ำซ้อน

ช่วยลดการสับสนในการทำงาน มุ่งสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้

ช่วยลดความขัดแย้งและอึดอัดใจระหว่างผู้ปฏิบัติงาน จึงเป็นการช่วยสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น

การกำหนดเป้าหมาย

การแบ่งงาน

การจัดบุคคลเข้าทำงาน

การสร้างความสัมพันธ์

เป้าหมายขององค์กรชัดเจน

สายงานบังคับบัญชาสั้นพร้อมงานบังคับบัญชาที่หลากหลาย

มีฐานข้อมูลที่สนับสนุนการบริหารงาน

มีระบบการจัดการที่ดีด้วยคนที่ไม่มาก

เน้นการปฏิบัติงานที่ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ

มีการตลาดและประชาสัมพันธ์

ร่วมมือร่วมใจ และทำงานเป็นทีมอย่างดียิ่ง

เน้นมูลค่าในการทำงานในแต่ละตำแหน่งและดำเนินตามนโยบายอย่างแน่วแน่

องค์กรที่มีรูปแบบ

องค์กรไร้รูปแบบ

ทฤษฎีองค์กรแบบประเพณีนิยม

ทฤษฎีกึ่งประเพณีนิยม

ทฤษฎีองค์การสมัยใหม่

โครงสร้างแบบงานหลัก

โครงสร้างแบบงานหลักและงานที่ปรึกษา

โครงสร้างแบบหน้าที่การงานเฉพาะ 13;

โครงสร้างแบบแมททริกซ์

โครงสร้างแบบสูงและแบบกว้าง 13;

การจัดแผนกงานตามหน้าที่การงาน

การจัดแผนกงานตามผลิตภัณฑ์

การจัดแผนกงานตามพื้นที่

การจัดแผนกงานตามลักษณะลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ

การจัดแผนกงานตามกระบวนการทำงาน

การจัดแผนกงานแบบผสมผสาน